กลยุทธ์การเทรด CFDs อย่างมีประสิทธิภาพ
กลยุทธ์พื้นฐาน
1. เทรดตามแนวโน้ม (Trend Following)
หลักการ: เข้าเทรดตามทิศทางของแนวโน้มหลักของตลาด
เครื่องมือ:
Moving Averages (MA): เข้า Long เมื่อ MA ระยะสั้นตัดขึ้นเหนือ MA ระยะยาว
MACD: สังเกตการตัดกันของเส้น MACD และเส้น Signal
RSI: ยืนยันแนวโน้มด้วยการอ่านค่า RSI เหนือ 50 (แนวโน้มขาขึ้น) หรือต่ำกว่า 50 (แนวโน้มขาลง)
การจัดการความเสี่ยง: ตั้ง Stop Loss ใต้แนวรับสำคัญล่าสุด (ในการ Long) หรือเหนือแนวต้านสำคัญล่าสุด (ในการ Short)
2. กลยุทธ์เทรดแนวรับแนวต้าน (Support and Resistance)
หลักการ: เข้า Long ที่แนวรับและ Short ที่แนวต้าน
เครื่องมือ:
แนวรับ/แนวต้านในอดีต
Fibonacci Retracement
Pivot Points
การยืนยัน: รอให้ราคามีปฏิกิริยา (เช่น รูปแบบแท่งเทียนกลับตัว) ที่ระดับสำคัญก่อนเข้าเทรด
3. กลยุทธ์ Breakout
หลักการ: เข้าเทรดเมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านสำคัญ
เครื่องมือ:
ระดับราคาสูงสุด/ต่ำสุดย้อนหลัง
แนวโน้มเส้นตรง (Trendlines)
รูปแบบชาร์ต (Chart Patterns) เช่น Triangle, Flag, Head and Shoulders
การกรอง: ยืนยันด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น และการทดสอบแนวรับ/แนวต้านหลังจากการ Breakout
กลยุทธ์ขั้นสูง
4. สวิงเทรดดิ้ง (Swing Trading)
หลักการ: จับการเคลื่อนไหวของราคาในช่วงระยะกลาง (2-10 วัน)
เครื่องมือ:
Stochastic Oscillator: เข้า Long เมื่อ Stochastic ขึ้นจากเขต Oversold
Bollinger Bands: เข้า Long เมื่อราคาแตะแถบล่างและเริ่มกลับตัว
อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: ตั้งเป้าหมายที่อัตราส่วนอย่างน้อย 1:2 (ความเสี่ยง:ผลตอบแทน)
5. กลยุทธ์ Contrarian
หลักการ: เทรดกลับทิศทางตลาดเมื่อมีสัญญาณราคาสูงหรือต่ำเกินจริง
เครื่องมือ:
RSI: เข้า Long เมื่อ RSI ต่ำกว่า 30, Short เมื่อสูงกว่า 70
Stochastic: หาสัญญาณ Divergence ระหว่าง Stochastic และราคา
การจัดการความเสี่ยง: ใช้ Stop Loss ที่เข้มงวดเนื่องจากเทรดสวนกระแสมีความเสี่ยงสูง
6. กลยุทธ์ Scalping
หลักการ: เทรดระยะสั้นมากเพื่อทำกำไรเล็กน้อยหลายครั้ง
เครื่องมือ:
Moving Average ระยะสั้น (5, 10 นาที)
Order Flow และ Market Depth
Volume Profile
การบริหารต้นทุน: ต้องคำนึงถึง Spread และค่าธรรมเนียมเนื่องจากเทรดบ่อย
กลยุทธ์จัดการความเสี่ยงและเงินทุน
7. การบริหารเงินทุน (Money Management)
ไม่เสี่ยงเกิน 1-2% ของเงินทุนต่อการเทรดหนึ่งครั้ง
ปรับขนาดตำแหน่งตามความผันผวนของตลาด (ATR)
เพิ่มขนาดตำแหน่งเฉพาะหลังจากมีผลกำไรสะสม
8. การบริหารอารมณ์ (Emotional Management)
ทำตามแผนการเทรดที่วางไว้อย่างเคร่งครัด
หลีกเลี่ยงการ "ตามทวง" ความขาดทุน (Revenge Trading)
พักการเทรดหลังจากขาดทุนติดต่อกันหลายครั้ง
กรณีศึกษา: การประยุกต์ใช้กลยุทธ์
สถานการณ์ 1: ตลาดมีแนวโน้มชัดเจน
ใช้กลยุทธ์เทรดตามแนวโน้ม
ยืนยันด้วย MACD และ RSI
ตั้ง Stop Loss ไว้ใต้แนวรับล่าสุด
ใช้ Trailing Stop เพื่อรักษากำไร
สถานการณ์ 2: ตลาดอยู่ในกรอบ (Range-bound)
ใช้กลยุทธ์แนวรับแนวต้าน
เข้า Long ที่แนวรับด้านล่างของกรอบ
ตั้ง Take Profit ไว้ที่แนวต้านด้านบนของกรอบ
ใช้ Oscillators เพื่อยืนยันสัญญาณ
ข้อแนะนำสำหรับการเริ่มต้น
ทดสอบกลยุทธ์ในบัญชีทดลองก่อนใช้เงินจริง
เริ่มต้นด้วยกลยุทธ์ง่ายๆ เช่น เทรดตามแนวโน้มหรือแนวรับแนวต้าน
ประเมินผลการเทรดอย่างสม่ำเสมอและปรับปรุงกลยุทธ์
พัฒนาแผนเทรดที่เป็นลายลักษณ์อักษรและยึดตามแผนอย่างเคร่งครัด
การเทรด CFDs มีความเสี่ยงสูง และไม่เหมาะกับนักลงทุนทุกราย ควรศึกษาข้อมูลให้ดีและเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจเทรด
Last updated