การติดตามข่าวเศรษฐกิจ
การติดตามข่าวเศรษฐกิจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ เพราะสามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินได้โดยตรง ข่าวสำคัญที่ควรติดตามมีดังนี้:
1. ข่าวเกี่ยวกับนโยบายการเงิน (Monetary Policy)
✅ อัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Decisions)
ประกาศโดยธนาคารกลาง เช่น FED (สหรัฐฯ), ECB (ยุโรป), BOJ (ญี่ปุ่น), BOT (ไทย)
อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น → เงินแข็งค่าขึ้น, หุ้นอาจตก
อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง → เงินอ่อนค่า, หุ้นมักปรับตัวขึ้น
✅ นโยบายการเงิน (Monetary Policy Statements)
รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจจากธนาคารกลาง
ดูว่ามีการส่งสัญญาณขึ้น/ลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตหรือไม่
✅ ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลาง (Central Bank Speeches)
เช่น ถ้อยแถลงของ Jerome Powell (FED), Christine Lagarde (ECB)
คำพูดสามารถส่งผลให้ตลาดผันผวนได้ทันที
2. ข้อมูลเศรษฐกิจหลัก (Economic Indicators)
✅ ตัวเลขเงินเฟ้อ (Inflation Data)
CPI (Consumer Price Index) – ดัชนีราคาผู้บริโภค
PPI (Producer Price Index) – ดัชนีราคาผู้ผลิต
เงินเฟ้อสูง → อาจทำให้ธนาคารกลางขึ้นดอกเบี้ย
เงินเฟ้อต่ำ → อาจมีการกระตุ้นเศรษฐกิจ
✅ ตัวเลขการจ้างงาน (Employment Data)
Non-Farm Payrolls (NFP) – สหรัฐฯ
อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate)
ตัวเลขดี → เงินแข็งค่า หุ้นอาจขึ้น
ตัวเลขแย่ → เงินอ่อนค่า หุ้นอาจตก
✅ GDP (Gross Domestic Product – ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ)
GDP สูง → เศรษฐกิจดี หุ้นอาจขึ้น
GDP ต่ำ → เศรษฐกิจอ่อนแอ หุ้นอาจตก
✅ ดัชนีภาคการผลิตและบริการ
PMI (Purchasing Managers’ Index)
ISM Manufacturing/Services Index (สหรัฐฯ)
ถ้าตัวเลขสูง → เศรษฐกิจขยายตัว (ตลาดหุ้นดี)
ถ้าตัวเลขต่ำ → เศรษฐกิจชะลอตัว (ตลาดหุ้นแย่)
✅ ยอดค้าปลีก (Retail Sales)
สะท้อนการใช้จ่ายของผู้บริโภค
ถ้าตัวเลขดี → หุ้นอาจขึ้น เพราะแสดงถึงความมั่นใจของผู้บริโภค
3. ข่าวเกี่ยวกับงบประมาณและหนี้สินของรัฐบาล
✅ งบประมาณของรัฐบาล (Fiscal Policy)
นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การลดภาษี หรือโครงการลงทุน
ถ้ามีมาตรการกระตุ้น → หุ้นอาจขึ้น
✅ เพดานหนี้สหรัฐฯ (US Debt Ceiling)
ถ้ามีปัญหาการเจรจาเพดานหนี้ อาจส่งผลให้ตลาดผันผวน
✅ อันดับเครดิตของประเทศ (Credit Rating Updates)
ถ้า S&P, Moody’s, Fitch ปรับลดอันดับเครดิต อาจกระทบค่าเงินและตลาดหุ้น
4. ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities Prices)
✅ ราคาน้ำมัน (Crude Oil Prices)
ราคาน้ำมันขึ้น → เงินเฟ้อสูงขึ้น อาจกดดันให้ธนาคารกลางขึ้นดอกเบี้ย
ราคาน้ำมันลง → ลดต้นทุนธุรกิจ หุ้นบางกลุ่มอาจขึ้น
✅ ราคาทองคำ (Gold Prices)
ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven)
ถ้าตลาดหุ้นตก หรือมีวิกฤต → ราคาทองมักขึ้น
✅ ราคาโลหะและสินค้าเกษตร (Copper, Soybeans, Corn, etc.)
สำคัญสำหรับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และประเทศที่พึ่งพาการส่งออก
5. ข่าวการเมืองและภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical News)
✅ สงคราม / ความขัดแย้งระหว่างประเทศ
เช่น สงครามรัสเซีย-ยูเครน, ตะวันออกกลาง, จีน-ไต้หวัน
อาจส่งผลกระทบต่อน้ำมัน ทองคำ และค่าเงิน
✅ ความสัมพันธ์ทางการค้า (Trade War, Tariffs, Sanctions)
เช่น สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน
อาจส่งผลต่อหุ้นและค่าเงิน
✅ การเลือกตั้งผู้นำประเทศสำคัญ (US Presidential Election, UK, EU, ฯลฯ)
ตลาดมักมีความผันผวนในช่วงเลือกตั้ง
6. ข่าวเฉพาะตลาดที่เทรด
✅ งบการเงินของบริษัท (Earnings Reports)
เช่น Apple (AAPL), Tesla (TSLA), Microsoft (MSFT)
หุ้นตัวใหญ่ประกาศงบ → อาจส่งผลต่อตลาดโดยรวม
✅ ดัชนีตลาดหุ้น (Stock Indices)
เช่น S&P 500, Dow Jones, NASDAQ, SET Index
ถ้าตลาดเป็นขาขึ้น → นักลงทุนกล้าเสี่ยงมากขึ้น
ถ้าตลาดเป็นขาลง → นักลงทุนระมัดระวังมากขึ้น
✅ Cryptocurrency News
เช่น ข่าวของ Bitcoin ETF, Binance, กฎระเบียบคริปโต
อาจส่งผลต่อราคา Bitcoin และตลาดโดยรวม
เครื่องมือสำหรับติดตามข่าวเศรษฐกิจ
📌 ปฏิทินเศรษฐกิจ (Economic Calendar)
Investing.com
📌 แหล่งข่าวสำคัญ
สรุป
📢 ข่าวที่สำคัญที่สุดที่ควรติดตาม: ✅ อัตราดอกเบี้ย & นโยบายการเงิน (FED, ECB, BOJ ฯลฯ) ✅ ตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI, PPI) ✅ ตัวเลขการจ้างงาน (NFP, Unemployment Rate) ✅ GDP และภาคการผลิต (PMI, ISM) ✅ ราคาน้ำมัน & ทองคำ ✅ เหตุการณ์ทางการเมืองและความขัดแย้งระหว่างประเทศ
🔍 ถ้าคุณเป็นเทรดเดอร์ ควรมี ปฏิทินเศรษฐกิจ ติดตามทุกวัน เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสำคัญที่อาจส่งผลต่อพอร์ตของคุณ 🚀📊
Last updated